ความรูทั่วไปเกี่ยวกับเห็ด
มนุษยเรารูจัก “เห็ด” และนํามาใชบริโภคเปนอาหารเปนเวลานานแล ว มีหลักฐานวา
เห็ ดเกิดขึ้นบนโลกมานานกวา 130 ล านป ก อนที่มนุ ษย จะเกิดขึ้นบนโลก นอกจากเห็ดจะเปนแหลง
อาหารของมนุษยและสัตวแลว เห็ดยังมีบทบาทสําคัญในการรักษาสิ่งแวดลอม โดยชวยในกระบวนการ
ยอยสลายสิ่งตกคางจากซากพืช โดยเฉพาะที่มีสวนประกอบของเซลลูโลส ลิ กนิน และมูลสัตว ใหเปน
ประโยชนตอการเจริ ญเติบโต เปนการลดปริมาณของเสียที่ เกิดจากพื ชและสัตวโดยธรรมชาติ ทั้ งนี้
เนื่องจากเห็ด มีเอ็นไซบ (Enzyme) หลายชนิดที่ยอยสลายวัสดุ ที่มีโครงสรางของอาหารที่ซับซ อน ใหอยู
ในรูปของสารอาหารที่สามารถดูดซึ มไปใชได เชน เห็ดหอม เห็ดสกุ ลนางรม เห็ดกระดุม เปนตน
นอกจากนี้ ยังมีเห็ดที่ตองอาศัยอาหารจากสิ่ งมี ชีวิตอื่นๆ หรื ออาศัยอาหารจากรากพื ชอีกหลายชนิดใน
ธรรมชาติ
เห็ดคืออะไร
เห็ดมีความหมายไดหลายอย างขึ้นอยูกับการใชประโยชน ถาใชเปนอาหารเห็ดจะอยูใน
กลุ มพื ชผัก เห็ดเป นพวกที่มีโปรตีนสู ง อุ ดมด วยวิตามินและเกลื อแรที่ สําคั ญหลายชนิ ด โดยเฉพาะ
วิตามิน บี 1 และบี 2 และมีแคลอรี่ ต่ํา เห็ดถูกจัดเปนพืชชั้นต่ํ ากลุมหนึ่ง เนื่องจากเห็ดไมมีคลอโรฟล
สังเคราะหแสงไมได ปรุงอาหารไมได ตองอาศัยอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ โดยการเปนปรสิต (Parasite)
หรือขึ้นบนรากพืชที่ตายแลว (Saprophyte) หรืออาศัยอาหารจากรากพืชอื่นๆ (Mycorrhiza)
โดยทั่วไปเห็ดเป นชื่อใชเรี ยกราชั้นสูงกลุ มหนึ่ง ซึ่งมี วิ วั ฒนาการสู ง สู งกว าราอื่นๆมี
วงจรชีวิตที่สลับซับซอนกวาเชื้อราทั่วไป เริ่มจากสปอรซึ่งเปนอวัยวะหรือสวนที่สรางเซลขยายพันธุ เพื่อ
ตกไปในสภาพแวดลอมที่เหมาะสมจะงอกเปนใย และกลุมใยรา (Mycelium) เจริญพั ฒนาเปนกลุ มกอน
เกิ ดเปนดอกเห็ด อยูเหนือพื้นดิ นบนตนไม ขอนไม ซากพืช มู ลสัตว ฯลฯ เมื่อดอกเห็ดเจริญจะสร าง
สปอร ซึ่งจะปลิวไปงอกเปนใยรา และเปนดอกเห็ดไดอีก หมุนเวียนเชนนี้เรื่อยไป
สวนตางๆ ของเห็ด (Morphology)
1. หมวก (Cap or pilleus)
เปนสวนที่อยูดานบนสุด มีรูปรางตางๆ กัน เชน โคงนูน รูปกรวย รูปปากแตร รูประฆัง เปนตน
ผิวบนหมวกตางกัน เชน ผิวเรียบ ขรุขระ มีขนเกล็ด มีสีแตกตางกันและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได
2. ครีบ (Gill or lamelta)
อาจเปนแผนหรือซี่บางๆ อยูใตหมวกเรียงเปนรัศมี หรือเปนรู (Pores) ครีบเปนที่เกิดของสปอร
3. กาน (Stalk or stipe)
ปลายขางหนึ่งของกานยึดติดกับดอก หรือหมวกเห็ด มีขนาดรูปรางสีตางกันในแตละชนิดเห็ด
ผิวยาวเรียบขรุขระ มีขนหรือเกล็ด เห็ดบางชนิดไมมีกาน เชน เชน เห็ดหูหนู เห็ดเผาะ เปนตน
4. วงแหวน (Ring or annulus)
เปนสวนที่เกิดจากเยื่อบางๆ ที่ยึดขอบหมวกกับกานดอกที่ขาดออกจากหมวกเห็ดบาน
5. เปลือกหรือเยื่อหุมดอก (Volva outer veil)
เปนสวนนอกสุดที่หุมหมวก และกานไวภายในขณะที่ยังเปนดอกออน จะแตกออกเมื่อดอกเริ่ม
บาน สวนของเปลือกหุมจะยังอยูที่โคน
6. เนื้อ (Context)
เนื้อภายในหมวกหรือกานอาจจะสั้น เหนียวนุม เปราะ เปนเสนใย เปนรูคอนขางแข็ง
คุณสมบัติของเห็ด
1. เห็ดที่รับประทานได (Edible mushroom)
เห็ดที่รับประทานไดมักมีรสและกลิ่นหอม เนื้อออนนุมหรือกรุบกรอบ เชน เห็ดหูหนู เห็ด
ฟาง เห็ดนางรม เห็ดภูฎาน เห็ดโคน เห็ดตับเตา บางชนิดเพาะเลี้ยงได บางชนิดเพาะเลี้ยงไมได
2. เห็ดมีพิษ (Poisonous mushroom)
เห็ดมีพิษมีหลายชนิด บางชนิ ดมีพิษรายแรงถึ งตาย เช น เห็ดระโงกหิน บางชนิดมีพิษทําใหเกิด
อาการอาเจียนมึนเมา เชน เห็ดรางแห เห็ดปลวกฟาน เห็ดหัวกรวดครีบเขียวออน เห็ดขี้ควาย เปนตน
การจําแนกเห็ดพิษเปนไปไดยาก เนื่องจากเห็ดในสกุลเดียวกัน บางชนิดรับประทานได บางชนิด
เปนพิษถึงตาย เชน เห็ดในสกุลอะมานิตา (Amnita) และเห็ดในสกุลเลปปโอตา (Lepiota) ดังนั้นการ
เก็บเห็ดที่ไมรูจักมารับประทานจึงไมควรทํา ควรเห็ดรับประทานเห็ดที่รูจักเทานั้น เนื่องจากความเปนพิษ
ของเห็ดบางชนิดรุนแรงถึงตาย บางชนิดทําใหเกิดอาการอาเจียน หรือทองรวง พิษของเห็ดจะเขาไป
ทําลายระบบประสาท ตับไตและประสาทตา
ขอควรระวังในการบริโภคเห็ด (เห็ดปา)
1. อยารับประทานเห็ดที่มีสีสวยสด และมีกลิ่นหอม ฉุนหรือเอียน
2. อยารับประทานเห็ดที่ยังตมไมสุก
3. หลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดเมื่อผาแลวเปลี่ยนสีหรือมีน้ําเยิ้มซึมออกมา
4. อยาเก็บเห็ดออน หรือเห็ดดอกตูมมารับประทาน เนื่องจากเห็ดในระยะนี้ยังไมสามารถจําแนกไดวา
เปนเห็ดพิษหรือไม
5. จงรับประทานเห็ดที่ทานรูจักและแนใจวาเปนเห็ดที่รับประทานไดจริงๆ
6. อยาทดลองรับประทานเห็ดพิษ เพราะทานไมมีโอกาสรอดแน
คุณคาทางโภชนาการของเห็ด
1. มีโปรตีนสูงกวาพืชผักชนิดอื่นๆ ยกเวนถั่วเหลือง ถั่วลันเตา
2. มีไขมันที่เปนประโยชนตอรางกาย (Unsaturated fatty acid)
3. มีกรดอมิโนที่จําเปนตอรางกาย
4. มีแคลอรี่ต่ํา
5. มีวิตามินหลายชนิดโดยเฉพาะอยางยิ่ง วิตามิน บี1 บี2 วิตามินซี
6. มีสวนประกอบของเยื่อใย (Fiber) และคารโบไฮเดรท
7. มีแรธาตุที่สําคัญหลายชนิด
ขั้นตอนที่สําคัญในการผลิตเห็ด
กอนที่จะกลาวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการวางแผนการจัดตั้งฟารมเห็ด ใครขอทบทวนถึงขั้นตอน
ใหญๆ ที่สําคัญในการผลิตเห็ดและขอมูลที่ตองการเสียกอนเพื่อเปนพื้นฐาน เนื่องจากขั้นตอนเหลานี้จะมี
ผลถึงการวางแผนและการจัดการฟารมเห็ดในขั้นตอไปดวย
การเลือกชนิดของเห็ดที่จะผลิต การเลือกชนิดของเห็ดนี้เปนขั้นแรกและสําคัญที่สุดเพราะเปน
จุดเริ่มตนของการวางแผนทั้งระบบ เกณฑที่ใชในการเลือกชนิดของเห็ดที่จะผลิต ไดแก ตลาด สถานที่ ตั้ง
ฟารม ภูมิประเทศและภูมิอากาศ และความยากงายในการจัดหาวัสดุที่ใชเพาะ ซึ่งเรื่องนี้จํานําไปขยาย
ความโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
การคัดเลือกแมเชื้อ การคัดเลือกแมเชื้อหรือแมพันธุนี้เปนการเตรียมการขั้นแรกของขบวนการทํา
เชื้อ สิ่งที่ควรคํานึงคือลักษณะประจําพันธุอันไดแก ผลผลิต คุณภาพ สีขนาดดอกและการตอบสนองตอ
อุณหภูมิระดับตางๆ เปนตนแมเชื้อนี้สามารถเตรียมไดเองจากเนื้อเยื่อดอก จากสปอรหรือจะซื้อหาจาก
แหลงรวบรวมเชื้อพันธุที่เชื่อถือได ทั้งของราชการและเอกชล แมเชื้อเห็ดที่ดีจะตองมีความบริสุทธิ์
ทางดานพันธุกรรม ไมเปนโรคไวรัสความรูเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาแมเชื้ออยางถูกหลักวิชาการเพื่อไมหา
ติดโรคและไมเกิดการกลายพันธุจึงมีความสําคัญอยางยิ่ง
การทําเชื้อเห็ด เชื้อเห็ดในที่นี้หมายถึงเชื้อเพาะ ซึ่งประกอบดวยเสนใยเห็ด และวัสดุซึ่งใชเลี้ยง
เสนใย มีผูทําเชื้อเปนจํานวนมากที่ใหความสําคัญตอวัสดุทําเชื้อมากเกินไป โดยเฉพาะอยางยิ่งในการผลิต
เชื้อเห็ดฟาง แทที่จริงแลวพันธุเห็ดที่ใชมีความสําคัญที่สุด วัสดุที่ใชทําเชื้อมีความสําคัญรองลงมาโดยจะ
การจัดเตรียมวัสดุเพาะเห็ด การเตรียมวัสดุเพาะเห็ดมีรายละเอียดแตกตางกันไปตามชนิดของเห็ด
ที่จะทําการเพาะ พอจะแยกกวางๆ ออกไดเปน การเตรียมวัสดุที่จําเปนตองหมัก เชน การทําปุยเพาะเห็ด
ฟางแบบโรงเรือนอบไอน้ํา หรือปุยเพาะเห็ดแชมปญอง หรือแมกระทั่งขี้เลื่อยไมเบจพรรณ ซึ่งจําเปนตอง
กองหมักทิ้งไวกอน สวนการเตรียมวัสดุอีกประเภทหนึ่งไดแกวัสดุที่ไมจําเปนตองหมัก เชนฟางสําหรับ
เพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย และขี้เลื่อยไมยางพาราสําหรับเพาะเห็ดถุงชนิดตางๆ เปนตน
ในการเตรียมวัสดุที่ตองหมักนั้น ขอมูลหรือความรูที่สําคัญคือ ขั้นตอนตางๆ ของการหมักธาตุ
อาหารที่ตองใสเพิ่ม วิธีและเวลาในการกลับกอง การใหความชื้น ขอมูลเรื่องความเปนกรดเปนดางที่
เหมาะสมลักษณะทางกายภาพและคุณสมบัติทางเคมีหรือธาตุอาหารของปุยเมื่อขบวนการหมักสิ้นสุดลง
ความหนาบางของชั้นปุยเมื่อใสบนชั้นในโรงเรือน อุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสมในการอบไอน้ํา
เพื่อที่จะกําจัดศูตรเห็ด และในขณะเดียวกันก็ปรับสภาพปุยหมักใหเหมะสมกับชนิดของเห็ดที่จะเพาะไป
ดวย
สวนวัสดุที่ไมตองหมักนั้น ขอมูลสําคัญที่จําเปนตองทราบไดแก ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะ
ทางเคมีอันไดแกความเปนกรดเปนดาง ปริมาณธาตุอาหาร การเติมอาหารเสริมและความเสียหายอัน
เนื่องมาจากการปนเปอนโดยเชื้อจุลินทรียชนิดอื่น วิธีการใสเชื้อและระบบการใสเชื้อซึ่งแตกตางกันไป
ตามชนิดของเห็ดเชื้อเห็ดบางชนิดใสโดยหวานหรือคลุกกับวัสดุเพาะและสามารถทําไดโดยงาย เชื้อเห็ด
บางชนิดตองการความระมัดระวังอายางยิ่งในการใสเชื้อลงในถุง มิฉะนั้นแลวจะเกิดการปนเปอนเสียหาย
เชนเห็ดหอม
การดูแลรักษา ซึ่งเริ่มตั้งแตการบมเชื้อ การบังคับใหออกดอก การใหน้ําและการเก็บดอก ขอมูลที่
จําเปนตองทราบ ไดแก สภาพแวดลอมที่เหมะสม เชนปริมาณกาชออกซิเจน และคารบอนไดออกไซด
อุณหภูมิ ความชื้น ความเปนกรดเปนดาง ในระยะความเจริญตางๆ กันของเห็ดแตละชนิด
การเก็บรักษาเห็ด
เห็ดนางรมฮังการี
บรรจุดอกเห็ดในถาดพลาสติก หุมดวยฟลม PVC เก็บที่อุณหภูมิ 5 องศาเชลเซียล เปน
เวลา 2 วัน เจาะรู 5-10 รู จะชวยระบายกลิ่นที่ผิดปกติออกไป สามารถเก็บรักษาตอไปไดอีก 4-5 วัน โดยที่
ดอกเห็ดยังคงสภาพดีและไมมีกลิ่นเหม็น
เห็ดฟาง
การแชแข็ง ทดสอบนําเห็ดฟางมาตัดแตงผาใหเปนชิ้นตามตองการลวกในน้ําเดือดแลวแชในน้ํา
เย็นทันที่แบงใสถุงพลาสติกนําไปแชในตูเย็นแชแข็งไวไดเปนเวลานายหลายเดือน เมื่อตองการนํามาปรุง
เห็ดเปาฮื้อ
เห็ดเปาฮื้อกานสั้นและกานยาว บรรจุในถุงพลาสติกทนรอน เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 6-7 องศา
เซลเซียส นาน 14 วัน สภาพยังสด กลิ่นปกติ จําหนายได
การวางแผนการผลิตเห็ด
การคัดเลือกชนิดเห็ดที่จะเพาะ การคัดเลือกชนิดเห็ดนับวาสําคัญอยงยิ่ง เนื่องจากจะเปน
ตัวกําหนดถึงการวางผัง และแผนปฎิบัติการที่จะติดตามมา ในชั้นนี้รายละเอียดที่ตองทราบเพื่อใช
ประกอบการตัดสินใจดังตอไปนี้
1. เห็ดที่จะผลิ ตจะตองไดรั บการยอมรั บจากผูบริโภคไม ว าจะโดยที่ ประชาชนในพื้ นที่ มี
ความคุนเคยอยูเปนอยางดีแลว เชนเห็ดพื้นเมืองชนิดตางๆ หรือจะเปนเห็ดที่นําเขามาจากตางประเทศและ
มีการโฆษณาประชาสัมพันธใหพื้นที่รูจักทั่วไป และเกิดความนิยมในการบริโภคขึ้นมา
2. พื้นที่หรือสถานที่ตั้งฟารมจะตองอยูไมหางจากตลาดหรือแหลงรับซื้อ การคมนาคมสะดวก
3. ตลาดจะตองมีขนาดใหญพอที่จะรองรับผลผลิต
4. สภาพภูมิอากาศ และสภาพภูมิประเทศเหมะสมกับการผลิตเห็ดชนิดที่ตองการทั้ งนี้เนื่องจาก
เห็ดต างชนิ ดกันมีความต องการอุณหภู มิในการเจริ ญของเส นใยและการออกดอกไม เทากัน ถ าสภาพ
ภูมิอากาศโดยเฉพาะอยางยิ่งอุณหภูมิ ไมเหมาะสมทําใหตองมีการปรับอุณหภู มิซึ่งจะทําใหการดําเนิ นการ
ผลิตยุงยากเพิ่มขึ้นไปอีก และมีตนทุนสูงขึ้นไปดวย
5. วั ตถุ ดิบหรื อวั สดุ ที่ ใช ในการเพาะเห็ ด หางาย และมี ราคาถู กซึ่งในป จจุ บั นนี้ ป ญหาอั น
เนื่องมาจากวัสดุเพาะหายากกําลังกลายมาเปนปญหาสําคัญของการเพาะเห็ดหลายชนิด ทั้งนี้เนื่องจากวัสดุ
สําหรับเพาะเห็ดหลายอยาง เชนขี้เลื่อย และขี้ฝาย มีราคาสูงขึ้น และหายากขึ้นเรื่อยๆ ปญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้น
ถ าฟารมเห็ดตั้งอยู ในที่ หางไกลจากแหลงผลิตวั สดุเหลานี้
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น